
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม ส่งผลให้สถานะเรือนจำยังคงที่ กล่าวคือ มีจำนวนเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 139 แห่ง และเรือนจำสีแดง 3 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 1 แห่ง และเรือนจำที่กำลังอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) อีก 2 แห่ง ซึ่งจะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องระยะต่อไป และในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้น ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 243,585 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,621 ราย
ขณะที่วันนี้ ในที่ประชุม ศบค.รท นายอายุตม์ ได้กล่าวกำชับถึงมาตรการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานว่า ในส่วนของห้องกักโรคนั้นจะต้องแน่นหนา สะอาด ไม่ปะปนกัน รวมถึงทำความสะอาดสิ่งของที่นำเข้ามาภายในเรือนจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่จะต้องได้รับการตรวจทั้ง ATK และ RT-PCR ตามคำแนะนำของทีมแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการฉีดวัคซีนที่ควรเพิ่มสูงขึ้น และฉีดจนครบทุกคน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและเสียชีวิต อีกทั้งยังต้องประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ เพื่อส่งต่อการรักษาได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย
**** *** ****