📌วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2565 เวลา 12.00 นาฬิกา นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 66 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 63 ราย และพบในเรือนจำสีแดง 3 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,387 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 83.8% กลุ่มสีเหลือง 15.9% และกลุ่มสีแดง 0.3% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 86,809 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมทั้งหมด 90,729 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตต่อกันเป็นวันที่ 2 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 192 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
–
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ แม้จะไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม แต่เนื่องจากเรือนจำกลางปัตตานี ซึ่งพบการติดเชื้อในแดนบางส่วนได้รับการประกาศเป็นเรือนจำแพร่ระบาดอีกครั้ง ส่งผลให้จำนวนเรือนจำสีขาวลดลงอยู่ที่ 130 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 12 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 5 แห่ง ระบาดซ้ำ 1 แห่ง และที่พบการระบาดเพียงบางส่วนอีก 5 แห่ง ขณะที่เรือนจำกลางขอนแก่นอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) และคาดว่าจะสามารถพ้นจากการระบาดได้ในวันพรุ่งนี้ (2 มีนาคม)
–
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ.โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมในวันนี้ ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ พบว่า แม้จะมีการระบาดเพิ่มเติมในบางแห่ง แต่ได้ดำเนินการตรวจคัดกรอง คัดแยก และรักษาผู้ติดเชื้ออย่างเป็นระบบ ภายใต้การประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ ส่งผลให้เรือนจำและทัณฑสถานบางแห่ง สามารถควบคุมและจำกัดพื้นที่ของการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเรือนจำแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้เรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง ปฏิบัติตามแผนการบริหารความพร้อมในสภาวะวิกฤต (BCP) อย่างเคร่งครัด พร้อมทบทวนขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติให้มีความถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายนอกอยู่เสมอ ทั้งมาตรการเพื่อป้องกันเชื้อจากผู้ต้องขังรับใหม่ จากเจ้าหน้าที่ และสิ่งของที่จะเข้าสู่เรือนจำ การสุ่มตรวจหาเชื้อในแดนของเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการระบาด ตลอดจนการรักษามาตรการเพื่อป้องกันเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
–
ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้น ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,228 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 268,506 ราย
***********