วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อสร้างโอกาสในการศึกษาระดับประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ต้องขัง โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และรองศาสตราจารย์ ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ พร้อมด้วยนายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วชิราภรณ์ เพิ่มพูนสินทรัพย์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมลงนามเป็นพยานในพิธีดังกล่าว ณ ห้องประชุมสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตวังใหม่ กรุงเทพมหานคร
สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เป็นสถาบันการศึกษาด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม จัดการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและอุดมศึกษา โดยทางสถาบันฯ เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังในการสร้างโอกาสทางการศึกษาระดับประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ต้องขัง เพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถทักษะอาชีพ และทักษะที่จำเป็นสาหรับการดำรงชีวิต (Upskill/Reskill/Newskill) ของผู้ต้องขัง และสามารถสะสมหน่วยกิตไว้ในคลังหน่วยกิต ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพและลดโอกาสใน การกระทำความผิดซ้ำ โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากการที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันได้จัดอบรมโครงการบริการวิชาการเพื่อกรมราชทัณฑ์ปีที่ 1 ให้กับผู้ต้องขังทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 13 กันยายน 2567 โดยเป็นการจัดอบรมรายวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ระยะเวลาในการอบรมรวม 40 ชั่วโมง มีผู้ต้องขังหญิงผ่านการอบรมได้รับประกาศนียบัตรจำนวน 20 คน ซึ่งถือว่าการจัดโครงการดังกล่าวประสบความสาเร็จและมีประโยชน์ในการเสริมสร้างความรู้พื้นฐานแก่ผู้ต้องขังเป็นอย่างสูงเนื่องจากผู้ต้องขังในเรือนจำส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับพื้นฐาน (ม.6) ถึงร้อยละ 70 ของผู้ต้องขังทั้งหมด ความรู้พื้นฐานจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ในการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาตลอดจนพัฒนาทักษะอาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง ภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือนี้ ในปีพ.ศ.2568 จะเริ่มดำเนินการจัดการอบรมให้ความรู้ ภาษาต่างประเทศสำหรับการใช้ชีวิตประจาวัน ได้แก่ ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ นอกจากนี้จะมีการจัดอบรมบุคลิกภาพให้แก่ผู้ต้องขังทัณฑสถานหญิงกลาง จำนวน 40 คน จากนั้นในปี พ.ศ.2569 มีการวางแผนดำเนินโครงการอบรมและการฝึกวิชาชีพจำนวน 8 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการจัดต้นไม้ขนาดเล็กเพื่อธุรกิจออนไลน์ หลักสูตรการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน หลักสูตรการพัฒนาอาชีพเฝ้าระวังและป้องกันภัยทางไซเบอร์ หลักสูตรเทคโนโลยีการสกัดน้ำมันหอมระเหยสำหรับผลิตภัณฑ์อโรมา หลักสูตรนักเล่าเรื่องท้องถิ่นมืออาชีพ หลักสูตรพนักงานบริหารงานโลจิสติกส์ หลักสูตรภาษาจีนกลางเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น และหลักสูตรภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน โดยผู้ต้องขังจะได้รับการอบรมพร้อมได้รับใบประกาศนียบัตร และจะมีการขยายการดำเนินงานไปยังเรือนจำอื่นๆ ต่อไป ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ในสร้างเสริมความรู้และการส่งเสริมอาชีพที่มี ความต้องการในตลาดแรงงาน ตลอดจนความรู้ที่ได้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตภายหลังพ้นโทษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
