📌วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12.00 นาฬิกา นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 160 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรค141 ราย และพบในเรือนจำสีแดง 19 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,071 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 76.5% กลุ่มสีเหลือง 23.1% และกลุ่มสีแดง 0.4% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 86,562 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 90,155 ราย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย จากเรือนจำจังหวัดเลย เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว โดยได้รับการส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลย จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 191 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
–
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ ขณะที่เรือนจำจังหวัดหนองคายพ้นจากการระบาดแล้ว ส่งผลให้มีเรือนจำสีขาวเพิ่มขึ้นเป็น 124 แห่ง และเรือนจำสีแดงลดลงเหลือ18 แห่ง โดยเรือนจำสีแดงส่วนหนึ่งสามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้วรวม 8 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดชุมพร เรือนจำอำเภอเกาะสมุย เรือนจำกลางขอนแก่น ทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง เรือนจำอำเภอหลังสวน เรือนจำจังหวัดระนอง เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร และเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งคาดว่าจะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
–
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวัน จากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR ซึ่งถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ อย่างไรก็ดี การรายงานดังกล่าวยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK โดยผู้ต้องขังป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข
–
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,217 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 268,065 ราย
***********