
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่มในขณะที่เรือนจำ/ทัณฑสถานสามารถควบคุมการแพร่ระบาด และกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติ โดยปัจจุบัน เรือนจำแม่ฮ่องสอนที่ยังคงพบการแพร่ระบาดนั้น สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว และจะพ้นจากการระบาดในวันที่ 26 เมษายนนี้ และในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 243,632 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,673 ราย
ขณะที่วันนี้ ในที่ประชุม ศบค.รท นายอายุตม์ ได้กล่าวกำชับถึงมาตรการการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และ 4 ให้แก่ผู้ต้องขังจนครบทุกคน เพื่อป้องกันการสูญเสีย รวมไปถึงยังต้องประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ เพื่อส่งต่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งการดูแลรักษาความสะอาดของห้องขังและห้องกักโรค ต้องทำความสะอาดสิ่งของที่นำเข้ามาภายในเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ต้องตรวจ ATK และ RT-PCR ตามคำแนะนำของแพทย์อีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข
**** *** ****