ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าตรวจราชการเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง โดยมีนางสาวมาดี สุภาพผลผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง, ผู้อำนวยการส่วน และเจ้าหน้าที่ทุกท่านให้การต้อนรับ พร้อมทั้งเข้าตรวจราชการภายในทัณฑสถาน โดยมีรายละเอียดการเข้าตรวจราชการ และมอบนโยบาย ดังนี้
1. ถ่ายทอดนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ภายใต้แนวคิด นโยบาย 6 อ. ในการขับเคลื่อนกรมราชทัณฑ์ ประกอบด้วย
– อ. ที่ 1 อาหาร : การดูแลเรื่องโภชนาการ เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยมีการจัดเตรียมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ครบทั้ง 5 หมู่
– อ. ที่ 2 อาชีพ : ผู้ต้องขังจะได้รับการฝึกฝนในหลากหลายทักษะ เช่น การทำอาหาร, การตัดเย็บ, การทำเกษตรกรรม, และงานฝีมือการมีอาชีพหลังพ้นโทษจะทำให้ผู้ต้องขังมีความสามารถในการหารายได้ที่ถูกต้องและสามารถพึ่งพาตนเองได้หลังจากพ้นโทษ
– อ. ที่ 3 อาศัย : การจัดที่อยู่อาศัย หลังจากที่พ้นโทษเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีการจัดหาที่พักอาศัยที่เหมาะสมให้กับผู้พ้นโทษ ในกรณีที่ผู้ต้องขังไม่มีที่อยู่อาศัยหรือครอบครัวรองรับ การสนับสนุนการเช่าบ้าน หรือการจัดโครงการบ้านพึ่งพาตนเองให้กับผู้ต้องขังที่พ้นโทษแล้ว เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
– อ. ที่ 4 อัตลักษณ์ : ทักษะที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและทรัพยากรท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด ตัวอย่างเช่น ผู้ต้องขังในจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมท้องถิ่น เช่น การทำเครื่องจักร, การเกษตร, หรือศิลปหัตถกรรมจะได้รับการฝึกทักษะที่เหมาะสมกับอัตลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ
– อ. ที่ 5 โอกาส : การสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังสูงอายุสามารถกลับตัวเป็นคนดีในสังคมเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขา
– อ. ที่ 6 อนามัย : มีการดูแลสุขภาพตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพทั่วไปจนถึงการดูแลในระยะยาว เช่น การฟื้นฟูสมรรถภาพ, การตรวจสุขภาพประจำปี, และการดูแลระยะสุดท้าย
2. ถ่ายทอดนโยบายอธิบดีกรมราชทัณฑ์นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ ภายใต้แนวคิด “รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกกำลังสอง สร้างคนดีคืนสังคม” โดยมีนโยบายเน้นหนัก ประกอบด้วย “ขับเคลื่อนโครงการพระราชทาน พัฒนาสู่ Smart Prison ยกระดับดัชนีนิติธรรม (Rule of Law) ปรับเปลี่ยนพฤตินิสัยผู้ต้องขังนำร่องการศึกษาต้นแบบ และสร้างความเป็นเลิศทางอาชีพ ส่งคืนคนคุณภาพสู่สังคม สรรค์สร้างภาพลักษณ์ผ่าน Soft Power มุ่งสู่องค์กรยุคใหม่อย่างยั่งยืน” สามารถนำนโยบายในแต่ละมิติไปขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป
3. ถ่ายทอดข้อเสนอแนะของพลอากาศเอก สมคิด สุขบาง จากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เกี่ยวกับการขึ้นเรือนนอนช้าได้ดำเนินการให้ผู้ก้าวพลาดทำกิจกรรมใด ซึ่งแนะนำเพิ่มเติม ให้แก่ผู้ก้าวพลาดมีความผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดควรมีการทำตารางกิจกรรมในแต่ละสัปดาห์ เช่น การเต้นบาสโลบ (Paslop) การอ่านหนังสือ การศึกษาธรรมะ
การออกกำลังกาย ฯลฯ สลับกันไปจะทำให้ไม่เกิดความเบื่อหน่าย ทั้งนี้ นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพิ่มเติมกิจกรรมการอ่านหนังสือเพื่อลดวันต้องโทษ กิจกรรมการเขียนนิยายออนไลน์ เวทีของนักเขียนหน้าใหม่ผ่านการนำเสนอรูปแบบออนไลน์ส่งต่อจากเรือนจำสู่นักอ่าน การเพ้นท์หรือวาดภาพเหมือน หรือภารพการ์ตูน โดยให้ผู้ก้าวพลาดสามารถออกแบบกิจกรรมตามความถนัด เพื่อสร้างรอยยิ้ม และลดช่องว่างของเวลาขึ้นเรือนนอนของผู้ก้าวพลาด
4. เข้าเยี่ยมชมโครงการฝึกวิชาชีพ ของดีเรือนจำสู่คนนอกกำแพง ด้านศิลปะหัตถกรรม อาทิ ชุดธรรมบุญ กระเป้าผ้า ผลิตภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิล และผลิตภัณฑ์งานฝีมืออื่น ๆ โดยโครงการฝึกวิชาชีพเพื่อให้ผู้พ้นโทษได้ออกไปประกอบอาชีพด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจรอบด้าน เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและลดปัญหาการกระทำผิดซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การติดตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้านบริการทางการแพทย์ผ่านการดูแล รักษา และฟื้นฟูผู้ก้าวพลาดที่ป่วย ได้เน้นย้ำการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคเรื้อรัง โดยให้มีการคัดกรองโรคให้มีประสิทธิภาพ และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อมใช้ ทั้งนี้ หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยเกินศักยภาพของโรงพยาบาลแม่ข่าย จะส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะทางตามระบบบริการสุขภาพของประเทศ กรมราชทัณฑ์ดำเนินการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังโดยถือตามหลักสิทธิมนุษยชนและสุขภาพผู้ต้องขังเป็นสำคัญ
สุดท้ายนี้ได้ขอขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ช่วยกันดำเนินงานตามภารกิจของ
กรมราชทัณฑ์อย่างมุ่งมั่น ตั้งใจเสมอมา