วันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 เวลา 13.00 น. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินงาน ว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ต้องขังภายหลังพ้นโทษ ระหว่าง กรมราชทัณฑ์ กับ มูลนิธิบ้านพระพร โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวุฒิชัย วงศ์จิโรจน์ ประธานมูลนิธิบ้านพระพรและนายสุนทร สุนทรธาราวงศ์ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาอาวุโสมูลนิธิบ้านพระพร ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมราชทัณฑ์เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ ชั้น 3 อาคารกรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี และในวันนี้ ได้มีการถ่ายทอดสด พิธีลงนามฯ ผ่านระบบออนไลน์ไปยังเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ
กรมราชทัณฑ์ มีนโยบายในการสร้างการยอมรับและการให้โอกาสผู้ต้องขัง และผู้พ้นโทษซึ่งเป็นไปตามนโยบายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มิติที่ 6 พัฒนาระบบเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยและช่วยเหลือหลังพ้นโทษและมิติที่ 7 ยกระดับการสร้างการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นของผู้ต้องขังต่อสังคม โดยเผยแพร่รณรงค์ สร้างการรับรู้ ให้สังคมตระหนัก ยอมรับ และเห็นคุณค่าของผู้ต้องขังที่สมควรได้รับโอกาสทางการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติสุข เฉกเช่นเดียวกับพลเมืองโดยทั่วไป แต่การดำเนินงานดังกล่าว ลำพังเพียงกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถดำเนินการได้เพียงหน่วยงานเดียว เพราะปัญหาหลักของผู้ต้องขังเมื่อพ้นโทษจากเรือนจำและทัณฑสถาน คือ เรื่องของการปรับตัวเข้าสู่สังคม เนื่องจากผู้พ้นโทษบางคนต้องโทษเป็นเวลานาน ทำให้เมื่อพ้นโทษแล้วไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ รวมถึงบางคนไม่มีที่อยู่อาศัย หรือยังไม่สามารถหางานทำได้ ซึ่งการดำเนินงานของมูลนิธิบ้านพระพร ถือเป็นการช่วยลดช่องว่างระหว่างกรมราชทัณฑ์กับสังคม ลดรอยต่อในการส่งต่อผู้พ้นโทษให้กับสังคม ให้สังคมได้เข้ามามีส่วนร่วม การให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือ นอกจากนี้ มูลนิธิบ้านพระพร ยังได้ให้ความช่วยเหลือและอุปการะเด็กติดผู้ต้องขัง โดยจัดสถานที่ให้อยู่พร้อมพี่เลี้ยงในการดูแลเด็ก พร้อมทั้งสนับสนุนการศึกษา และเสริมพัฒนาการตามวัยของเด็ก ให้สามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพในสังคม
โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ต้องขังภายหลังพ้นโทษ ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กับมูลนิธิบ้านพระพรในครั้งนี้ ถือเป็นการพัฒนา และยกระดับการดำเนินงานร่วมกัน ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สนับสนุนที่พักอาศัยแก่ผู้ต้องขังหลังการปล่อยตัว รวมถึงร่วมกันพัฒนาแนวทางการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ต้องขังภายหลังพ้นโทษ ร่วมเสริมสร้างความเข้มแข็งในการให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุม อันเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
