วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่าง กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมฯ ณ เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร
การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสการมีความรู้ เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน เป็นใบเบิกทางในการประกอบอาชีพ ทำให้ทุกคนไม่ตกเป็นเหยื่อ หรือถูกล่อลวงจากผู้ที่ไม่หวังดี ทั้งนี้เมื่อเราทุกคนมีความรู้ มีวุฒิการศึกษา ก็สามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือประกอบอาชีพ และที่สำคัญคือ การศึกษาจะยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน ให้หลุดพ้นจากกับดักของความไม่รู้และความยากจน มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตในสังคมโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งกรมราชทัณฑ์และกรมส่งเสริมการเรียนรู้ได้ทำความร่วมมือในการจัดการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้กับนักเรียนผู้ต้องขังที่พลาดโอกาสทางการศึกษา ให้สามารถกลับตนเป็นพลเมืองที่ดี สามารถใช้ชีวิตอย่างสุจริตชนในสังคมภายหลังจากพ้นโทษ และไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก ด้วยกรมราชทัณฑ์ ยังคงตระหนักถึงปัญหาด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งก็คือผู้ต้องขังที่ก้าวผิดพลาด จึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพฤตินิสัย ปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด ทัศนคติ ด้วยการจัดการศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสม สามารถดำรงชีวิตอย่างถูกต้องตามครรลองครองธรรมของสังคม ตลอดจนประพฤติตน อย่างถูกต้องภายใต้กฎหมายของบ้านเมือง ซึ่งผู้กระทำผิดส่วนใหญ่มีพื้นฐานความรู้น้อยจากสถิติพบว่าผู้กระทำผิด มีระดับการศึกษาต่ำกว่าขั้นพื้นฐาน ถึงกว่าร้อยละ ๗๐ บางส่วนไม่มีวุฒิ หรือไม่เคยได้รับการศึกษา
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงได้มีนโยบายในการส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ต้องขัง โดยกรมราชทัณฑ์ได้กำหนดให้การจัดการศึกษา เป็นหนึ่งในนโยบาย ๘ มิติ ในมิติที่ ๕ พัฒนาและต่อยอดการศึกษา การฝึกวิชาชีพ ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน เพื่อเป้าหมายสำคัญในการลดโอกาสที่ผู้พ้นโทษจะกลับมากระทำผิดซ้ำ โดยร่วมกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ต้องขัง รวมถึงการพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาโดยการนำกิจกรรมการพัฒนาพฤตินิสัยในเรือนจำ มาเทียบโอนเป็นรายวิชาเลือกของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ได้ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาเรียน ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเร็วขึ้น และร่วมกันพัฒนาการจัดการศึกษาผู้ต้องขังในรูปแบบ Anywhere Anytime ที่ไม่มีข้อจำกัดในการเรียนโดยผลจากบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการจัดการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริม สนับสนุน ภารกิจการพัฒนาการจัดการศึกษาผู้ต้องขัง ซึ่งผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้พ้นวัยที่จะศึกษาในสถานศึกษา ให้เข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น และได้รับวุฒิการศึกษาเร็วขึ้น ด้วยระบบการเทียบระดับการศึกษา การเทียบเคียงหรือเทียบโอนผลการเรียน ทักษะความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงการตรวจสอบ และรับรองวุฒิการศึกษาให้กับผู้ต้องขัง
